พลตรี เจ้าราชบุตร (วงศ์ตวัน ณ เชียงใหม่) เจ้าราชบุตรองค์สุดท้ายแห่งจังหวัดเชียงใหม่ อดีตผู้บังคับการพิเศษกรมผสมที่ 7 ราชองครักษ์พิเศษ อดีตสมาชิกวุฒิสภา และเป็นราชโอรสในพลตรี เจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 9 กับแม่เจ้าจามรีวงศ์
รองอำมาตย์เอก พลตรี เจ้าราชบุตร (วงศ์ตวัน ณ เชียงใหม่) มีฐานะเป็นเจ้ารัชทายาทแห่งนครเชียงใหม่ ซึงมีสถานะเป็นผู้ที่จะขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 10 หากไม่เปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.ศ. 2475
เจ้าวงศ์ตวันเกิดเมื่อวันศุกร์ ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 6 ปีจอ อัฐศก จุลศักราช 1248 ตรงกับวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2429 เป็นเจ้าราชโอรสในเจ้าแก้วนวรัฐกับแม่เจ้าจามรีวงศ์ เป็นน้องชายของเจ้าอุตรการโกศล (ศุขเกษม ณ เชียงใหม่) และเจ้าบัวทิพย์ ณ เชียงใหม่
เมื่อเยาว์วัย เจ้าราชบุตรวงศ์ตวันฯ มีชื่อเรียกว่า "เจ้าหมู" เมื่อปี พ.ศ. 2440 ได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2441 จึงเดินทางไปศึกษาที่โรงเรียนราชวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร และในปี พ.ศ. 2445 ได้กลับมาบรรพชาสามเณร ที่วัดหอธรรม จังหวัดเชียงใหม่ (ปัจจุบันคือ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร)
เจ้าวงศ์ตวัน เคยติดตามเจ้าแก้วนวรัฐ เพื่อกระทำพิธีทูลเกล้าฯ ถวายต้นไม้เงินและต้นไม้ทอง ตามประเพณีอันเป็นราชบรรณาการแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในขณะนั้นเจ้าดารารัศมี พระราชชายา ซึ่งเป็นเจ้าอา ได้นำเจ้าราชบุตรเฝ้าถวายตัวตามในคราวเสด็จแปรพระราชฐานไปประทับที่พระราชวังบางปะอิน จนกระทั่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานนามว่า "วงศ์ตวัน" ต่อมาได้ถวายตัวเป็นมหาดเล็กของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะดำรงอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เมื่อคราวเสด็จประพาสมณฑลพายัพ พ.ศ. 2448 ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติแล้ว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าราชบุตร เป็นหุ้มแพรมหาดเล็ก และพระราชทานเสมาทองคำลงยา มีพระปรมาภิไธยย่อ ว.ป.ร. พร้อมด้วยเข็มข้าหลวงเดิม
เจ้าราชบุตร มีความสามารถเล่นเครื่องดนตรีหลายชนิด แต่ที่มีความถนัดเป็นพิเศษคือ ขิม และชอบกีฬากลางแจ้งหลายชนิด เช่น เทนนิส ฟุตบอล และมวย
เมื่อเจ้าราชบุตร กลับภูมิลำเนาที่เชียงใหม่ ได้เข้ารับราชการฝ่ายมหาดไทย ในตำแหน่งเสมียนกองมหาดไทยมณฑลพายัพ เมื่อปี พ.ศ. 2452 ได้รับพระราชทานเงินเดือน 25 บาท ในปีต่อมาได้เลือนตำแหน่งเป็นเลขานุการเค้าสนามหลวง ต่อมาในปี พ.ศ. 2456 ได้รับเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นรองเสนามหาดไทย และได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "เจ้าราชสัมพันธวงศ์"
เจ้าราชสัมพันธวงศ์ได้รับพระราชทานยศเป็น "นายหมวดเอกเสือป่า" ในปี พ.ศ. 2468 ต่อมาวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2466 ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "เจ้าราชุบตร จังหวัดเชียงใหม่" และในปี พ.ศ. 2473 ได้เลื่อนตำแหน่งทางราชการเป็นเสนามหาดไทยเชียงใหม่ ต่อมาวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ได้รับพระราชทานยศเป็นนายพันตรีพิเศษในกรมทหารราบ จนกระทั่งได้รับพระราชทานยศชั้นสูงสุดเป็นพลตรี และเป็นราชองครักษ์พิเศษ
เจ้าราชบุตร (วงศ์ตวัน ณ เชียงใหม่) สมรสกับเจ้าจันทร (สกุลเดิม ณ เชียงใหม่) มีธิดา 1 คน ต่อมาสมรสกับเจ้าภัทรา (สกุลเดิม ณ ลำพูน) มีธิดา 2 คน และต่อมาได้สมรสกับหม่อมศรีนวล (สกุลเดิม นันทขว้าง)
เจ้าจันทร ณ เชียงใหม่ ธิดาเจ้าสิงห์คำ และเจ้ารสสุคนธ์ ณ เชียงใหม่ เป็นพระนัดดาของเจ้าอุบลวรรณา ณ เชียงใหม่ มีพระธิดาหนึ่งองค์ คือ
เจ้าภัทรา ณ เชียงใหม่ (สกุลเดิม ณ ลำพูน) ธิดาเจ้าน้อยจิตตะ และเจ้าหล้า ณ ลำพูน ซึ่งเจ้ามารดาเป็นพระธิดาของเจ้าอินทยงยศโชติ มีธิดาสององค์คือ
พลตรี เจ้าราชบุตร (วงศ์ตวัน ณ เชียงใหม่) มีฐานะเป็นผู้สืบราชสกุลเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ซึ่งได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า สืบตระกูลจากพระบิดาคือ พลตรี เจ้าแก้วนวรัฐ เมื่อปี พ.ศ. 2471
เจ้าราชบุตร ได้รับการศึกษาที่กรุงเทพมหานคร และได้รับพระราชทานการศึกษาอบรมจากราชสำนัก ตั้งแต่รัชกาลของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 เจ้าราชบุตร ก็ยังแสดงออกถึงความจงรักภักดี และมีความใกล้ชิดกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จนถึงรัชกาลที่ 9
เมื่อครั้งที่เจ้าราชบุตร ได้เดินทางไปผ่าตัดต้อกระจกที่กรุงเทพมหานคร ได้รับพระราชทานกระเช้าดอกไม้ และคราวที่ไปผ่าตัดช่องท้อง ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณเอาพระราชหฤทัยใส่ และโปรดเกล้าฯ ให้นายแพทย์เอาใจใส่เป็นพิเศษ รวมทั้งให้พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร นำกระเช้าดอกไม้พระราชทานไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล
ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2514 ในพระราชวโรกาสเสด็จแปรพระราชฐาน มาประทับที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี นำแจกันดอกไม้พระราชทานแก่เจ้าราชบุตร นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณครั้งสุดท้ายในขณะที่เจ้าราชบุตรยังมีชีวิตอยู่
เจ้าราชบุตรได้มีบทบาทสำคัญในการต้อนรับพระราชอาคันตุกะจากต่างประเทศ โดยเป็นผู้ออกทุนทรัพย์ส่วนตัว เช่น
เจ้าราชบุตร ได้สนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์ในด้านต่างๆ อาทิ การบริจาตสมทบมูลนิธิเพื่อการศึกษา การบริจาคทรัพย์เพื่อบำรุงศาสนา การสนับสนุนการแพทย์ สมทบทุนกิจกรรมกาชาด ฯลฯ โดยมีอนุสรณ์ที่แสดงถึงกิจกรรมสาธารณประโยชน์ของเจ้าราชบุตร ได้แก่ กุฏิวัดเจดีย์หลวงที่สร้างอุทิศถวายเจ้าแก้วนวรัฐ และแม่เจ้าจามรีวงศ์ รวมถึงอาคารเจ้าราชบุตร (วงศ์ตวัน ณ เชียงใหม่) ซึ่งเป็นตึกโคโบลท์ ของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
เจ้าราชบุตร (วงศ์ตวัน ณ เชียงใหม่) ถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2515 เวลา 12.10 น. ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ สิริรวมอายุ 86 ปี หลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเพียง 4 วัน โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานโกศไม้สิบสองเป็นเกียรติยศ ในการออกพระเมรุ อันเป็นโกศพระราชทานสำหรับเจ้าประเทศราช
ความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทล้นเกล้าฯ ทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพวงมาลาไปตั้งที่ศพ ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์และพระราชทานเลื่อนโกศประกอบเกียรติยศศพจากโกศแปดเหลี่ยมเป็นโกศไม้สิบสองประกอบศพ พร้อมทั้งบำเพ็ญพระราชกุศลพระราชทานในการออกเมรุ ณ คุ้มวงศ์ตวัน จังหวัดเชียงใหม่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญโกศศพขึ้นประดิษฐานบนราชรถ เคลื่อนกระบวนอิสริยยศ เชิญศพจากคุ้มวงศ์ตวันไปสู่วัดสวนดอก ตั้งกระบวนอิสริยยศเชิญโกศศพเวียนเมรุ แล้วเชิญโกศศพขึ้นตั้งบนจิตกาธาน ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระเจ้าลูกยาเธอ และพระเจ้าลูกเธอทุกพระองค์ เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเพลิงศพ พลตรี เจ้าราชบุตร (วงศ์ตวัน ณ เชียงใหม่) ที่เมรุวัดสวนดอก (พระอารามหลวง) จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2516 และได้ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินไปยังพลับพลาวัดสวนดอก ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์บังสุกุล แล้วเสด็จขึ้นเมรุพระราชทานเพลิง
เจ้าราชบุตร (สุริยฆาต) • พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์ • เจ้าหนานมหาวงศ์ • เจ้าสำใส • เจ้าหนานไชยเสนา
เจ้าศรีปิมปา • พระเจ้ามโหตรประเทศ • เจ้าหลวงน้อยคำแสน • เจ้าอุปราช (หน่อคำ) • เจ้าน้อยพรหมา • เจ้าหนานอินตา • เจ้าสุธรรมมา • เจ้าปทุมมา • เจ้าคำทิพย์ • เจ้าบัวคำ • เจ้าองค์ทิพย์ • เจ้ากาบแก้ว • เจ้าบุญปั๋น • เจ้าเกี๋ยงคำ • เจ้าจันทร์เป็ง • เจ้าแก้วยวงคำ
เจ้าหนานไชยเสนา • เจ้าหนานมหายศ • พระยาอุปราชพิมพิสาร • เจ้าไชยลังกาพิศาลโสภาคย์คุณ • เจ้าหลวงหนานธรรมลังกา • เจ้าบัวคำ • เจ้าเกี๋ยงคำ • เจ้าคำค่าย • พระยาราชวงศ์ (มหาพรหมคำคง) • เจ้าบุญนำ • เจ้าคำเกี้ยว • แม่เจ้าเขียวก้อมเทวี • เจ้าฟองสมุทร • เจ้าเปาพิมาลย์ • เจ้าคำเมา • เจ้าลังกา • เจ้าคำปวน • เจ้าหนานมหาวงศ์ • เจ้าบัวถา • เจ้ากัณหา • เจ้ามณีวรรณ • เจ้าธรรมเสนา • เจ้าบุรีรัตน์ (ภูเกียง) • เจ้าอุปราช (ธรรมปัญโญ) • เจ้าน้อยธรรมกิติ • เจ้าหนานธรรมปัญญา • เจ้าหนานพรหมจักร • เจ้าหนานคำวัง • เจ้าน้อยจักรคำ • เจ้าน้อยมโนรส • เจ้าหนานสุยะ • เจ้าคำตื้อ • แม่เจ้ากันธิมาเทวี • เจ้ากัลยา • เจ้ามุกดา • เจ้าสนธยา • เจ้าบัวบุศย์ • เจ้าหนานกาวิละ • เจ้าบัวศรี • เจ้าพิมพา • เจ้าคำนาง • เจ้าเบ็ญจ๋าย • เจ้าบัวไข • เจ้ากรรณิกา
เจ้าราชบุตร (หนานธนัญไชย) • เจ้าหนานปัญญา • เจ้าน้อยขี้วัว • เจ้าน้อยขี้ควาย • เจ้าน้อยขี้ช้าง • เจ้าเฮือนคำ • เจ้าน้อยหน่อแก้ว • เจ้าศิริวรรณา • เจ้าสุนันทา สุริยโยดร
เจ้าอุตรการโกศล (มหาพรหม) • เจ้าราชบุตร (สุริยวงศ์) • เจ้าน้อยเทพวงศ์ • เจ้าหนานไชยวงศ์ • เจ้ามหันต์ยศ • เจ้าหนานไชยเทพ • เจ้าหนานมหาเทพ • เจ้าน้อยคำกิ้ง • เจ้าอุปราช (ปัญญา) • เจ้าบุญปั๋น • เจ้าน้อยก้อนแก้ว • เจ้าคำปวน • เจ้ายอดเรือน • เจ้าอุษา • เจ้าบัวทิพย์ • เจ้าคำหลอ • เจ้าปิมปา • เจ้าอโนชา • เจ้าตุ่นแก้ว
เจ้าจันทรโสภา • เจ้าดารารัศมี พระราชชายา • เจ้าอินทวโรรสสุริยวงษ์ • เจ้าแก้วนวรัฐ • เจ้าจอมจันทร์ • เจ้าน้อยโตน • เจ้าแก้วปราบเมือง • เจ้าน้อยมหาวัน • เจ้าราชวงศ์ (น้อยขัตติยะ) • เจ้าคำข่าย • เจ้าคำห้าง
เจ้าอุตรการโกศล (ศุขเกษม ณ เชียงใหม่) • เจ้าบัวทิพย์ ณ เชียงใหม่ • เจ้าราชบุตร (วงศ์ตวัน ณ เชียงใหม่) • เจ้าพงษ์อินทร์ ณ เชียงใหม่ • เจ้าศิริประกาย ณ เชียงใหม่ • เจ้าอินทนนท์ ณ เชียงใหม่
อ่านบทความฉบับสมบูรณ์ได้ที่ http://th.wikipedia.org/wiki/เจ้าราชบุตร_(วงศ์ตวัน_ณ_เชียงใหม่)